พิธีวางศิลาฤกษ์การสร้างพระโพธิสัตว์กวนอิมและอาคารอเนกประสงค์

โดย อังกูร พินพิสิทธิ์

คติเรื่องพระโพธิสัตว์มีมาในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา ทั้งฝ่ายเถรวาทและฝ่ายมหายาน มีใจความโดยย่อว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ก่อนจะตรัสรู้อนุตตรสัมมา สัมโพธิญาณ ได้เสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ บำเพ็ญบารมีเพื่อการบรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และในพระชาติสุดท้ายก่อนที่จะมาอุบัติเป็นพระพุทธเจ้าในโลกมนุษย์ พระโพธิสัตว์จะประทับอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิตชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วจึงจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิตมาอุบัติเป็นมนุษย์บุรุษเพศ เมื่อจะออกบรรพชาเพื่อแสวงหาโมกขธรรมต้องมีพระมเหสีและพระโอรสเสียก่อน เพื่อเป็นเครื่องแสดงถึงความเป็นบุรุษเพศที่สมบูรณ์ คติดังกล่าวนี้ตรงกันทั้งฝ่ายเถรวาทและฝ่ายมหายาน ดังนั้นจึงไม่เคยปรากฏเลยว่าพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นสตรีเพศ

เมื่อพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานเผยแผ่เข้าไปใน จีน พระโพธิสัตว์พระองค์หนึ่งพระนามว่า พระอวโลกิเตศวร เป็นที่เคารพนับถือของคนจีนมาก และได้พระนามอีกอย่างหนึ่งว่า พระโพธิสัตว์กวนอิม แปลว่า พระผู้ได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญของสัตว์โลก พระโพธิสัตว์กวนอิ่มนั้นเป็นบุรุษเพศ และทรงมีพระเมตตาต่อสัตว์ผู้ยากไร้ ทรง ช่วยเหลือมวลมนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์ยาก เมื่อความเคารพนับถือในพระโพธิสัตว์พระองค์นี้มีมากขึ้น จึงมีการสร้างรูปเคารพของพระองค์ขึ้นโดยสร้างเป็นสตรีเพศที่สวยงาม คนในรุ่นหลังจึงพากันเข้าใจผิดว่า พระโพธิสัตว์กวนอิมนั้นเป็นสตรี

ครั้นการนับถือพระโพธิสัตว์กวนอิมเผยแผ่เข้าไปในประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยจึงมีการสร้างพระรูปของพระโพธิสัตว์พระองค์นี้กันอย่างแพร่หลายแม้พุทธศาสนิกชนที่อยู่ในฝ่ายเถรวาทก็มีจำนวนไม่น้อยที่ยอมรับนับถือพระโพธิสัตว์กวนอิม เพราะเชื่อว่าพระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อมวลมนุษย์ ทรงอำนวยโชคลาภและความผาสุกแก่ปวงชนที่ยากไร้ คนจึงพากันกราบไหว้บูชาขอพรอ้อนวอนให้ประทานโชคลาภ มีการสร้างพระรูปของพระโพธิสัตว์กวนอิมประดิษฐานตามวัดวาอารามต่างๆ และต่อมาก็เรียกพระโพธิสัตว์พระองค์นี้ว่า “เจ้าแม่กวนอิม” ทำให้เกิดความเข้าใจผิดไปว่าพระองค์เป็นสตรี

อย่างไรก็ตาม ในยุคโลกาภิวัตน์อันเป็นยุคของข่าวสารข้อมูลนี้ การสกัดกั้นความคิด ความเชื่อ ตลอดจนความเลื่อมใสศรัทธานั้น เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ ทุกคนมีอิสระในการที่จะนับถือหรือไม่นับถืออะไรก็ได้ ตามภูมิปัญญาของตน กลุ่มผู้นับถือและต้องการความช่วยเหลือนั้นมีมากกว่า จึงเกิดลัทธิความเชื่อ ตลอดจนศาสนาใหม่ๆ ขึ้นมากมาย และมีการประนีประนอมพร้อมไปกับการผสมผสานความคิดความเชื่อระหว่างลัทธิศาสนาต่างๆ ฝ่ายเถรวาทและฝ่ายมหายาน ซึ่งก็ถือว่าเป็นศาสนาเดียวกัน จึงมีการยอมรับคติความเชื่อของกันและกัน จึงมิใช่เรื่องแปลกที่พุทธศาสนิกชนที่นับถือพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทหันมายอมรับนับถือเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งแท้จริงคือพระโพธิสัตว์กวนอิมหรือพระโพธิสัตว์อวโกลิเตศวร จึงมีการสร้างพระรูปของพระองค์ขึ้นเพื่อให้ผู้เลื่อมใสศรัทธาได้กราบไหว้บูชาและขอพรจากพระองค์

ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้า นายอังกูร พินพิสิทธิ์ และภรรยาคือ นางพัชรา พินพิสิทธิ์ จึงได้รวบรวมคณะผู้เลื่อมใสจัดทำโครงการสร้างพระโพธิสัตว์กวนอิมและเก๋งจีน ขึ้นที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเวศุวัน จังหวัดขอนแก่นโดยข้าพเจ้าเป็นประธานกรรมการและผู้ประสานงาน ได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันจันทร์ที่๙ มิถุนายน ๒๕๔๐ เวลา ๑๐.๓๙ นาฬิกา โดยมี พระเดชพระคุณพระราชสุทธิญาณมงคล วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์และในพิธีนี้ก็ได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารอเนกประสงค์ของมูลนิธิอุทิศเพื่อเด็กไทยในชนบท ซึ่งมีศาสตราจารย์นายแพทย์วันชัย วัฒนศัพท์ เป็นประธานกรรมการ ดังรายละเอียดที่แนบมาพร้อมภาพประกอบ เพื่อผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายจะได้ช่วยกันสนับสนุนทั้งด้านทุนทรัพย์และกำลังใจ ขอทุกท่านจงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ นึกคิดสิ่งใดจงสมความ มุ่งมาดปรารถนาทุกประการเทอญ.

อนึ่ง เรื่องศูนย์ปฏิบัติธรรมเวฬุวันนี้ ข้าพเจ้าเคยเขียนลงในกฎแห่งกรรม – ธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๙ ตั้งแต่หน้า ๔๒๙-๔๖๑ ในเล่มที่ ๑๑ นี้ได้เพิ่มเติมเพื่อให้ทราบถึงความก้าวหน้าของการดำเนินงานของศูนย์

พระราชสุทธิญาณมงคลประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น (ขวา) ศาสตรจารย์นายแพทย์วันชัย วัฒนศัพท์ (ซ้าย) อาจารย์รุ่งเรื่อง สิงห์โต และผู้ทำพิธีจากจังหวัดเชียงใหม่