อานิสงส์ของการสวดพุทธคุณ พาหุง
มหาการุณิโก และชินบัญชรคาถา
โดย พันเอก อัมพร เอี่ยมละออ (พ.ม.,ศษ. บ.)
กระผมมีความสนใจ และนับถือพระพุทธศาสนาอย่างจริงใจ และมีความสนใจในพระพุทธคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์เจ้า (พระอริยสงฆ์) อย่างเชื่อมั่น และมีความเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ว่าผู้ใดทำกรรมอันใดไว้ดีหรือชั่วจะต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้น
เมื่อกระผมจบการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ด้วยความรักในเครื่องแบบทหาร จึงได้สมัครเข้าเป็นนักเรียนนายสิบเหล่าทหารช่าง พ.ศ. ๒๔๙๗ หลักสูตรประจำ ๑ ปี เมื่อจบการศึกษาได้รับยศเป็นสิบโท และได้เข้ารับราชการในเหล่าทหารช่าง อ. เมือง จ. ราชบุรี จากนั้นกระผมได้ใช้เวลาว่างศึกษาเพิ่มเติมเสมอมา จนสอบได้ประกาศนียบัตรประโยคครูพิเศษมัธยม (พ.ม.) เทียบเท่าอนุปริญญาวิชาชีพจากกรมการฝึกหัดครูกระทรวงศึกษา ธิการ และได้ศึกษาต่อจนได้รับปริญญาตรี “ศึกษาศาสตร์บัณฑิต” วิชาเอกบริหารการศึกษา จากมหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราช และได้รับราชการทหารตลอดมา ได้ประสบกับปัญหา อุปสรรคบางประการอันเป็นธรรมดาของชีวิต จนได้รับยศเป็นพันโทเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๕
นับว่าโชคดีที่มีคุณแม่เป็นผู้ถือศีล ๘ ตั้งแต่กระผมจำความได้ คุณแม่จะไปถือศีล ๘ ที่วัดในวันพระเป็นประจำจนกระทั่งวาระสุดท้ายแห่งชีวิตมาถึงเมื่ออายุได้ ๗๙ ปีกระผมไม่ดื่มสุรา และไม่สูบบุหรี่ ไม่รับประทานเนื้อโคมา ตั้งแต่เด็ก เพราะคุณพ่อของกระผมเป็นตัวอย่าง ท่านไม่ชอบเรื่องเหล่านี้จนเป็นนิสัยที่ติดตัวกระผมมาจนถึงปัจจุบันนี้
ชีวิตในการรับราชการของกระผม เริ่มมีปัญหาและอุปสรรคดังนี้ คือ
กระผมจะต้องปรับย้ายเป็นตำแหน่งประจำ เพื่อพักรอเกษียณอายุราชการ ในปี พ.ศ. ๒๕๔ สำหรับข้าราชการทหาร ผู้ใดจะพักรอเกษียณอายุราชการ ผู้บังคับ บัญชาชั้นต้นของหน่วย จะพิจารณาให้ได้ยศสูงขึ้น เพื่อเป็นเกียรติประวัติ
กระผมได้เสนอเรื่องขอปรับย้าย ให้ขึ้นครองอัตราพันเอก ตามระเบียบการปรับย้าย ประจำปี พ.ศ. ๒๕๓๙ แต่ไม่ได้รับการพิจารณาจากผู้บังคับบัญชาชั้นสูงระดับกรม และมีปัญหาขัดข้อง เนื่องจากมีกำลังพลเป็นจำนวนมาก จึงดูเหมือนว่ากระผมจะหมดโอกาสที่จะได้รับยศเป็น พันเอก ก่อนเกษียณอายุราชการ
ข้อสังเกต กำลังพลที่ไม่สำเร็จการศึกษาระดับปริญ-ญาตรีส่วนใหญ่ จะได้รับการพิจารณาให้ได้เป็น พันเอกแต่สำหรับกระผม เป็นผู้หนึ่งที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เพราะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ตรงตามคำสั่งกองทัพบกที่ ๕๘๖๑๒๕๓๒ ลงวันที่ ๑๓ มิถุนายน พ..ศ. ๒๕๓๒ กำหนดไว้ว่า ข้าราชการทหารชั้นสัญญาบัตรยศ พันโท จะเลื่อนขึ้นครองอัตรา พันเอก จะต้องมีคุณวุฒิปริญญาตรีทุกสาขา ที่สำนักงาน ก.พ. รับรอง แต่กระผมไม่ได้รับการ พิจารณาจากผู้บังคับบัญชาชั้นสูง สำหรับกำลังพล ยศ พันโท ไม่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ซึ่งได้รับการ ผ่อนผันให้เป็น พันเอก ได้จนถึง ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๙ ได้รับการพิจารณาเลื่อนขึ้นให้ครองอัตรา พันเอกเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่คำสั่งกองทัพบกดังกล่าว ได้กำหนดเป็นหลักเกณฑ์ไว้ว่า ให้หน่วยพิจารณากำลังพล ที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีก่อน แต่ผู้บังคับบัญชาอาจจะเห็นใจกำลังพล ที่ไม่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ซึ่งจะหมดโอกาสเป็น พันเอก ภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๓๙ ตามคำสั่งของกองทัพบก ซึ่งได้กำหนดระยะเวลาไว้แน่นอน จึงได้พิจารณา ผู้ไม่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีก่อนก็อาจเป็นได้
กระผมเป็นข้าราชการทหารผู้หนึ่ง มีระเบียบวินัยและเชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเสมอ แต่ครั้งนี้กระผม คิดว่ามันอาจจะเป็นอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ จึงทำให้ผู้บังคับบัญชาไม่ได้เสนอชื่อกระผมไป
กระผมได้ไหว้พระสวดมนต์ ทำสมาธิ แผ่เมตตาให้สัตว์โลก และเจ้ากรรมนายเวรอยู่เสมอ และได้อ่านหนังสือกฎแห่งกรรม – ธรรมปฏิบัติ ของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน อ. พรหมบุรี จ. สิงห์บุรี ตั้งแต่เล่ม ๑ ถึงเล่ม ๙ โดยบุตรสาวคนที่๒ ได้เคยมาปฏิบัติที่วัดอัมพวันนำมาให้อ่าน กระผมจึงได้สวดพุทธคุณ พาหุง มหาการุ-ณิโก ตามแนวทางของหลวงพ่อจรัญ อย่างเชื่อมั่นและศรัทธา
ก่อนอื่นผมเคยได้รู้จักหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน ในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ เมื่อหลวงพ่อได้ไปบรรยายธรรมเรื่องกฎแห่งกรรม ที่สโมสรนายทหารกรมการทหาร ช่าง จังหวัดราชบุรี หลังจากบรรยายธรรมแล้ว หลวงพ่อได้แจกรูปเหมือนของหลวงพ่อเป็นเหรียญให้แก่ข้าราชการทหารในกรมการทหารช่าง ในวันนั้นกระผมได้รับแจกด้วยเช่นกัน ขณะนั้นกระผมมียศเป็นร้อยโท และได้เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี หลวงพ่อบอกว่าเป็นเหรียญที่ระลึกที่หลวง พ่อได้ชดใช้กรรมในสมัยที่เป็นเด็ก หักคอนก ซึ่งในเวลาต่อมาหลวงพ่อก็ได้ประสบอุบัติเหตุจากรถยนต์ชนกันจนได้รับบาดเจ็บถึงขั้นคอหักในวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๑ ดัง ที่ได้ทราบกันทั่วไปแล้ว จึงได้สร้างเหรียญดังกล่าวขึ้นเรียกว่าเหรียญหลวงพ่อคอหัก และกระผมได้มอบเหรียญนี้ให้แก่บุตรสาวคนที่ ๒ ซึ่งนับถือหลวงพ่อมาก เหรียญที่ระลึกนี้กระผมได้สอบถามเพื่อนข้าราชการทหารที่ได้รับแจกในวันฟังธรรมจากหลวงพ่อในวันนั้นซึ่งยืนยันว่าได้รับแจกคนละ ๑ เหรียญ แต่หาไม่พบ แต่ของกระผมยังอยู่ จึงมีความภูมิใจมาก
ต่อมากระผมได้อ่านหนังสือพระเครื่อง “ลานโพธิ์” ฉบับที่ ๖๑๕ – ๖๔๐ เขียนโดยประเจียด คงศาสตรา ได้เขียนประวัติหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เทพเจ้าแห่งเมือง สี่แคว จังหวัดนครสวรรค์ โดยอ้างว่าเขียนจากคำบอกเล่าของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน อ. พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ว่าหลวงพ่อเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเดิม ในหนังสือนั้นได้เขียนประวัติของหลวงพ่อเดิมตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเขียนจากคำบอกเล่าของหลวงพ่อจรัญ กระผมได้ซื้อหนังสือพระเครื่อง “ลานโพธิ์” ตั้งแต่เล่ม ๖๑๕ -๖๔๐ และ อ่านจนจบเพราะกระผมนับถือหลวงพ่อเดิมมาก ท่านเป็นอริยสงฆ์ ด้วยเหตุนี้กระผมจึงเพิ่มความเคารพนับถือหลวง พ่อจรัญมากและเชื่อว่าหลวงพ่อเป็นอริยสงฆ์ในพระพุทธศาสนารูปหนึ่ง
เมื่อกระผมมีปัญหาและอุปสรรคในการขอเลื่อนตำแหน่งเป็นอัตรา พันเอกก่อนเกษียณอายุราชการดังได้กล่าวไว้แต่ต้น จึงได้ให้บุตรสาวคนที่ ๒ ซึ่งเคยปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวันของหลวงพ่อ พากระผมไปพบหลวงพ่อจรัญ ที่วัดในวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๙ ตรงกับวันพระขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๔ กระผมได้ร่วมทำบุญกับหลวงพ่อ จากนั้นได้กราบนมัสการหลวงพ่อเวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. และได้ขออนุญาตหลวงพ่อเพื่อถามปัญหา ๒ ข้อ
๑. โรคประจำตัวที่เป็นอยู่จะรักษาหายหรือไม่ มีเวรกรรมที่จะต้องแก้ไขอย่างใดหรือไม่ หลวงพ่อตอบว่า กินยา ก็จะหายเอง ไม่มีเวรกรรมอะไร
๒. ขอตำแหน่งเป็นพันเอก ขณะนี้ยังมีปัญหาอยู่ จะได้หรือไม่ หลวงพ่อตอบว่า เรื่องนี้ไม่สามารถตอบได้ แต่ให้กระผมไปสวด พาหุง ให้มากๆ ให้ตั้งใจสวดหลวงพ่อได้กล่าวสรุปให้ญาติโยมที่ไปนมัสการในวันนั้น ว่าบางคนบารมียังขาดอยู่ ๕-๑๐ % การสวดพระพุทธ
คุณจะช่วยได้ แต่ถ้าขาดมากก็ช่วยไม่ได้
ตั้งแต่วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นต้นมา กระผมได้ตั้งใจสวดพระพุทธคุณ พาหุง มหาการุณิโกตามที่พิมพ์ในหนังสือคู่มือสวดมนต์หลวงพ่อ สวดทั้งกลาง วันและกลางคืนเมื่อมีเวลาว่าง วันละหลายครั้ง และสวดแผ่เมตตา กรวดน้ำ อุทิศบุญกุศล ตามหนังสือสวดมนต์ของหลวงพ่อทุกประการ สวดอยู่นานประมาณ ๓-๔ เดือน กระผมก็ได้รับคำสั่งของกองทัพบกให้ปรับย้ายไปรับราชการหน่วยใหม่ คือหน่วยจังหวัดทหารบกราชบุรี อ.เมือง จ. ราชบุรี ในตำแหน่งประจำ เพื่อพักรอเกษียณอายุราชการ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ตามหลักเกณฑ์
เมื่อกระผมได้รับการปรับย้ายดังกล่าว จะทำให้หมดโอกาสและสิทธิที่จะได้รับการปรับยศเป็น พันเอก แต่กระผมมีเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายสิบเหล่าทหารช่างมียศเป็นพันเอก (พิเศษ) ได้คอยให้กำลังใจ แนะนำให้เสนอเรื่องไปใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ครั้งนี้ผู้บังคับบัญชาหน่วยใหม่คือ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกราชบุรี ท่านได้ลงนามในหนังสือการขอปรับย้าย ข้าราชการทหารชั้นสัญญาบัตรในอัตราพันเอกให้วันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๓๙ และกระผมได้ส่งเรื่องไปที่กองบัญชาการกองทัพบก กรุงเทพฯ ในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๓๙ เจ้าหน้าที่บอกว่าส่งเรื่องมาช้าไปหมดระยะเวลาแล้ว และการพิจารณาก็เสร็จไปแล้วมีจำนวน ๑๐๐ กว่าราย กระผมจึงขอให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้ก่อนและให้ช่วยส่งให้อดีตผู้บังคับบัญชาของกระผมด้วย
ในวันที่๓๑ กรกฎาคม ๒๕๓๙ กระผมได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่กองบัญชาการกองทัพบกว่า เรื่องของกระผมได้รับอนุมัติแล้ว ให้รอคำสั่งต่อไปอีก และในวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๓๙ ก็ได้รับคำสั่งให้ครองอัตราพันเอกเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อรับทราบแล้วกระผมจึงคิดว่าอุปสรรคต่างๆ มากมายได้ผ่านพันไปอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ก็ด้วยอานิสงส์ของการตั้งมั่นอยู่ในความดี รักษาศีลและการสวดพาหุงมหาการุณิโก
อนึ่ง กระผมขอขอบคุณพลเอกชาญ ประเสริฐสุขเสนาธิการทหารบก ที่ท่านได้ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนกระผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยจงช่วยดลบัลดาลให้ท่านและครอบครัวมีความสุขความเจริญตลอดกาลนาน
กระผมมีความมั่นใจ และศรัทธาในการสวดพระ พุทธคุณ พาหุง มหาการุณิโก และชินบัญชรคาถา ย่อมได้รับอานิสงส์ ดังที่หลวงพ่อจรัญได้ให้คติธรรมไว้ว่า
“สวดมนต์เป็นยาทา วิปัสสนาเป็นยากิน”
กระผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย จงช่วยคุ้มครองให้หลวงพ่อจรัญ (พระราชสุทธิญาณมงคล) มีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาเพื่อสร้างคนต่อไป เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร เป็นที่พึ่งของพุทธ-ศาสนิกชนชั่วกาลนาน
ขอนมัสการมาด้วยความเคารพอย่างสูง
พันเอก อัมพร เอี่ยมละออ