จากโรงเรียนขามแก่นนครถึงวัดอัมพวัน
โดย วัชรีวรรณ วัดบัว
(บรรณารักษ์ห้องสมุดโรงเรียนขามแก่นนคร)
ข้าพเจ้ารู้จักหลวงพ่อ เมื่ออาจารย์ดุษณี มาตุย์สุรีย์ มาเล่าให้ฟังถึงข้อธรรมมะของหลวงพ่อจรัญ มีตอนหนึ่งได้พูดถึงบุญบารมีของหลวงพ่อที่ช่วยรักษาโรงมะเร็งที่หูจนหายสนิท ให้แก่พันเอกวิโรจน์ ทสยันไชย อนุศานาจารย์ กองทัพภาคที่ ๑
ข้าพเจ้าสะดุดหูกับชื่อนี้ เพราะเป็นชื่อของคุณพ่อของเพื่อนสนิทของข้าพเจ้าที่โคราช ซึ่งข้าพเจ้ามีความคุ้นเคยกับครอบครัวนี้เป็นอย่างดียิ่ง
โดยเฉพาะอาการป่วยของพ่อวิโรจน์ ซึ่งท่านได้เพียรพยายามหาหมอรักษาตัวเป็นเวลานาน จนข้าพเจ้าคิดว่า พ่อวิโรจน์คงจะต้องตัดใบหูทิ้งแน่ ๆ แต่อาการกลับหายเป็นปกติ
ข้าพเจ้าได้ถามท่านว่า “พ่อไปรักษาตัวกับหมอไหนมา” พ่อวิโรจน์ก็ตอบว่า “เพราะบุญบารมีของหลวงพ่อจรัญ ช่วยรักษาอาการของพ่อจนปกติ”
หลังจากพ่อวิโรจน์หายจากโรคมะเร็งที่หู ท่านก็หันมาทานอาหารเจ ทานยาสมุนไพร ไม่ตรากตรำงานเช่นเหมือนก่อน ระวังเรื่องอาหารการกิน
พ่อวิโรจน์จะหมั่นทำบุญ นิมนต์พระมาฉันอาหารที่บ้านโคราชเสมอ ๆ จนเป็นเรื่องปกติของที่บ้านพ่อวิโรจน์ พลอยให้ข้าพเจ้าได้ทำบุญกุศลไปด้วย
ข้าพเจ้าทราบข่าวการถึงแก่กรรมของพ่อวิโรจน์ ทสยันไชย เมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๓๔ ในขณะที่ข้าพเจ้าและสามีไปร่วมรับประทานอาหารค่ำกับพลโทไพบูลย์ ห้องสินหลากและภริยา ซึ่งได้กรุณาจัดเลี้ยงให้แก่คณะนายทหาร กรมทหารปืนใหญ่ที่ ๖ และครอบครัวที่กรุงเทพฯ
พ่อวิโรจน์ได้ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๓๔
ข้าพเจ้าไม่ยอมเชื่อและนอนไม่หลับ เฝ้าคิดถึงพ่อวิโรจน์ว่า สุขภาพท่านก็แข็งแรงดี บุญกุศลท่านก็หมั่นทำ จนเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกหลาน ทำไมท่านจะอายุสั้นนัก
ในเช้ามืด ข้าพเจ้าก็เคลิ้มฝันว่า ข้าพเจ้าได้เดินทางไปบ้านพ่อวิโรจน์ และถามลูกสาวคนโตของพ่อว่าทำไมพ่อจึงตาย
ลูกสาวท่านตอบว่า “เมียใหม่ของพ่อวางยาพิษพ่อ จะเอาสมบัติของพ่อ”
ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่น รีบชวนสามีเดินทางกลับโคราช เพื่อร่วมงานศพของพ่อวิโรจน์
คำถามแรกที่ข้าพเจ้าถามเพื่อนของข้าพเจ้าคือ “ทำไมพ่อจึงตาย”
เพื่อนข้าพเจ้าจึงเล่าให้ฟังว่า “โดนเมียใหม่ของพ่อใช้อวิชชา” ซึ่งข้าพเจ้าก็พอจะทราบข่าวในเรื่องอุปนิสัยของภรรยาใหม่ของพ่อ จึงได้ชวนกันอโหสิกรรม ให้กับการกระทำที่ไม่ถูกต้องอันนี้
ข้าพเจ้าได้เล่าเรื่องนี้ให้คณะอาจารย์ฟัง และบอกว่า ถ้าใครมีโอกาสไปกราบหลวงพ่อจรัญ กรุณาเรียนให้หลวงพ่อทราบด้วยว่า พันเอกวิโรจน์ ทสยันไชย ได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว
ต่อมาก็มีคณะอาจารย์ที่โรงเรียนได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน กลับมาเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า ได้เรียนให้หลวงพ่อทราบ เรื่องการถึงแก่กรรมของพันเอก วิโรจน์ ทสยันไชย หลวงพ่อบอกว่า “นั่นแหละ ผิดคำพูดกับหลวงพ่อ เพราะตอนที่รักษาตัวจนหาย หลวงพ่อให้รับปากว่า ห้ามมีเมียใหม่”
ตอนแรกหลวงพ่อไม่ยอมเชื่อ และยังเล่าให้ฟังว่า เมื่อเช้าตรู่วันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๓๔ เวลาประมาณ ๗.๓๐ น. พ.อ.วิโรจน์ ได้มาหาหลวงพ่อที่กุฏิ แต่งกายด้วยชุดกางเกงขาสั้น เสื้อแขนสั้นคอฮาวาย ลายริ้วสีน้ำตาล บอกกับหลวงพ่อว่า จะเดินทางไปนครสวรรค์ แต่ไม่เงินและหิวข้าวมาก
หลวงพ่อจึงให้เงินไป ๕๐๐ บาท และมอบพระสมเด็จให้ ๒ องค์ เพราะ พ.อ.วิโรจน์บอกว่าจะเอาไปให้แฟน
หลวงพ่อบอกให้ โยมจำเริญ ต้มข้าวต้มปลาให้ พ.อ.วิโรจน์ทานก่อนจะไปนครสวรรค์ ซึ่งโยมจำเริญได้เล่าให้ฟังว่า พ.อ.วิโรจน์ ทานข้าวต้มจนหมดหม้อใหญ่ แล้วก็หายไป
ข้าพเจ้าได้ฟังความที่คณะอาจารย์เล่า รู้สึกขนลุกซู่เพราะลูกสาวของ พ.อ.วิโรจน์ ได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า พ่ออยากจะไปนครสวรรค์ ในวันที่ ๒-๓ มกราคม ๒๕๓๕ แต่พ่อวิโรจน์เข้าโรงพยาบาลก่อน
จากบุญบารมีของหลวงพ่อจรัญ ที่มีต่อ พ.อ.วิโรจน์ ซึ่งข้าพเจ้านับถือยิ่ง ข้าพเจ้าตั้งจิตไว้ว่า จะต้องหาโอกาสไปกราบหลวงพ่อจรัญ ให้ได้
จนกระทั่งอาจารย์จันทร์ฉาย ขาวนวล และเพื่อน ๆ ๓-๔ คน ได้ชวนข้าพเจ้าไปวัดอัมพวัน ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตสามี โดยเช่ารถตู้ไป ซึ่งอาจารย์บุญส่ง อินทวิรัตน์ ก็ได้อยู่ดูแลส่งคณะจนรถออกจากเมืองขอนแก่น ระหว่างทางพูดคุยกันถึงว่า จะมีโอกาสได้กราบหลวงพ่อกันรึเปล่า
จนรถไปถึงวัดประมาณ ๑ ทุ่ม ทราบว่าหลวงพ่ออยู่ก็รีบพากันไปกราบหลวงพ่อ ซึ่งท่านกำลังแสดงธรรมให้กับคณะศิษย์ ซึ่งเป็นข้าราชการผู้ใหญ่
เมื่อทางคณะได้เรียนให้หลวงพ่อทราบว่า เป็นคณะมาจากโรงเรียนขามแก่นนคร ท่านก็ปรารภถึงอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ พร้อมทั้งยกตัวอย่าง และ เหลือบมองมาทางคณะของข้าพเจ้า แล้วหลวงพ่อท่านก็แจกพระเครื่องให้เฉพาะคณะของข้าพเจ้า
เมื่อทราบว่าทางคณะไม่สามารถอยู่ค้างคืนให้ ท่านจึงให้รับประทานอาหารก่อนเดินทางกลับ
คณะข้าพเจ้าได้เข้าไปให้หลวงพ่อเป่ากระหม่อม มีเพียงข้าพเจ้าไม่ได้เข้าใกล้หลวงพ่อ เพราะรู้สึกตัวเองว่าไม่ค่อยสะอาด เพียงแต่ได้รับการประพรมน้ำมนต์เท่านั้น
คณะข้าพเจ้าได้กราบลาหลวงพ่อ ออกจากวัดอัมพวัน ประมาณ ๓ ทุ่มครึ่ง รถวิ่งออกจากเมืองสิงห์บุรี ผ่านลพบุรี เข้าเขตอำเภอด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
ข้าพเจ้ารู้สึกว่ารถวิ่งเร็วมาก แต่เห็นคุณวิชิตคุยกับคนขับรถอยู่ จึงเบาใจ
สองข้างทาง ไม่มีบ้านผู้คน ถนนไม่มีรถวิ่งสวน ถ้าเกิดอุบัติเหตุ จะแก้ไขอย่างไร ข้าพเจ้านึกอยู่ในใจแล้วก็เคลิ้มหลับ
รถวิ่งถึงสามแยกเข้าอำเภอมัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ขณะนั้นเวลาประมาณตี ๒ กว่า รถตู้เสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง เสียงพวกเราร้องหาหลวงพ่อจรัญ กันลั่นรถ
ตัวข้าพเจ้าซึ่งนั่งอยู่เบาะแถวที่สองชิดประตู กลับตีลังกาอยู่บนพื้นใต้เบาะแถวที่ ๑ ต่างก็หาทางออกจากรถ
เมื่อคลานออกมาจากรถได้ ก็พบพลเมืองดีให้การช่วยเหลือเป็นนายสิบ ๒ นาย สังกัดกองพันทหารม้าที่ ๖ (สย.) ค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น ได้ขับรถกระบะจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาประสบเหตุพอดี ได้พาคณะข้าพเจ้าไปพักรอที่โรงพยาบาลมัญจาคีรี ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ ๕๐๐ เมตร
ข้าพเจ้ารู้สึกปวดหลังบริเวณบั้นท้ายมาก ระหว่างที่รอให้รถของบริษัทมารับคณะข้าพเจ้า ก็ได้พูดคุยกันถึงคำพูดของหลวงพ่อจรัญ เมื่ออยู่ที่วัดอัมพวัน
และต่างก็พร้อมใจกันนึกถึงบุญบารมีของหลวงพ่อจรัญ ที่ช่วยคุ้มครอง ปกป้องอันตราย ทำให้คณะไม่ประสบเหตุที่ร้ายแรงไปมากกว่านี้
จากจำนวนผู้เดินทาง ๑๐ คน ชาย ๓ คน หญิง ๔ คน เด็ก ๓ คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บคือ ข้าพเจ้าและน้องของอาจารย์วชิราภรณ์ เยี่ยมแสง
เมื่อรถบริษัทโดยเจ้าของบริษัทนำรถตู้มารับด้วยตนเอง ที่โรงพยาบาลมัญจาคีรี ได้พาคณะไปตรวจดูอาการที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น แพทย์เวรตรวจอาการพบว่า ปลีน่องฉีกขาด และน้องของอาจารย์วชิราภรณ์กระดูกไหปลาร้าหัก
ข้าพเจ้าเดินทางกลับไปพักที่บ้าน ในวันต่อมา อาจารย์บุญส่งได้ฝากข้อความว่า หลวงพ่อจรัญ ทราบเรื่องที่เกิดอุบัติเหตุแล้ว
ให้ข้าพเจ้านำเอาน้ำมันมะพร้าวที่หลวงพ่อจรัญ ปลุกเสกแล้ว ให้ทานวดบริเวณกล้ามเนื้อที่ฉีกขาด เป็นประจำจนอาการดีขึ้น
ทุกวันข้าพเจ้าจะสวดมนต์ ตามแบบวิธีของหลวงพ่อจรัญ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร
และหลวงพ่อแนะนำว่า อย่าคิดเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทรถตู้ ซึ่งเจ้าของบริษัทยินดีจะออกค่ารักษาพยาบาลให้ทุกกรณี
เงินที่บริษัทจ่ายให้ตามใบเสร็จที่ข้าพเจ้าจ่ายไป ข้าพเจ้าได้นำไปทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร
ข้าพเจ้านึกอัศจรรย์ในเหตุการณ์ที่ชักนำให้ข้าพเจ้าได้ประสบ พบเห็นบุญบารมีของหลวงพ่อจรัญ ด้วยตนเองถึง ๒ ครั้ง ในการอนุเคราะห์ช่วยเหลือ คนทุกข์ยากให้ร้ายกลายเป็นดี
วัชรีวรรณ วัดบัว
ร.ร.ขามแก่นนคร ถ.กสิกรทุ่งสร้าง
อ.เมือง จ.ขอนแก่น ๔๐๐๐๐