บารมีหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคลแห่งวัดอัมพวัน
โดย นางกอบกูล ทองไชย
ดิฉัน นางกอบกูล ทองไชย เป็นผู้หนึ่งที่เคยมีนิสัยโมโหร้าย โหดเหี้ยม ไม่กลัวบาป เป็ดไก่เลี้ยงไว้ เชือดคอเป็นอาหารหน้าตาเฉย สุนัขที่เข้าไปรบกวนเป็ดไก่ในเล้า ยิงเปรี้ยงอย่างเดียวไม่สะทกสะท้าน ใคร ๆ อย่าได้คิดรังแก เพราะในชีวิตไม่เคยยอมใครเด็ดขาด เรียกว่า “กัดไม่ปล่อย”
ข่าวการตายแล้วฟื้นของพันเอกเสนาะ จินตรัตน์ แล้วมาเล่าเรื่องราวของบาปบุญ ได้ทำให้ดิฉันหยุดคิด รู้สึกกลัวบาป แต่ยังไม่พบแนวทางไปสู่ความสว่าง วันที่ ๙ – ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕ สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) จัดอบรมการปฏิบัติธรรมสำหรับผู้บริหารของโรงเรียนประถมศึกษา สามีและดิฉันมีโอกาสได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการอบรมพร้อมกัน
เราสองคนจึงได้มุ่งหน้าไปยังวัดอัมพวัน ซึ่งแน่นอนที่สุดจะต้องว้าวุ่น ไหนจะห่วงบ้าน ห่วงลูก ในการอบรมครั้งนั้นมี คุณแม่สิริ กรินชัย และคณะเป็นวิทยากร หลักสูตรการอบรมมีการเดินจงกรมและนั่งสมาธิ ดิฉันงุนงงมากเบื่อหน่าย เห็นเป็นเรื่องไร้สาระ งมงาย มองไม่เห็นแนวทางที่จะพ้นทุกข์ได้เลย แต่แล้วในตอนเย็นของวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕ ดิฉันได้รู้รสพระธรรม ซึ่งเรียกว่า เป็นครั้งแรกในชีวิต เลยทีเดียว หลวงพ่อได้เมตตาเทศน์ ให้ผู้เข้ารับการอบรมเป็นเวลาเกือบ ๓ ชั่วโมง การเทศน์หลวงพ่ออยู่ในท่าสำรวมไม่ขยับเขยื้อนเปลี่ยนท่าแต่ประการใด ทุกคนเงียบกริบ ราวกับถูกสะกดจิต จะมีก็เสียงหัวเราะชอบใจสลับสับเปลี่ยนเป็นครั้งคราว ธรรมะของหลวงพ่อลึกซึ้งและกินใจมาก ดิฉันน้ำตาร่วง จิตสำนึกบอกว่าได้พบพระแล้ว
เรื่องของความศรัทธาห้ามกันไม่ได้ ปิดภาคเรียน ลูกชายคนเดียวของดิฉันก็ได้เข้าบวชในโครงการบวชเณรภาคฤดูร้อนของวัดอัมพวันร่วมกับยุวพุทธิกสมาคมฯ หลวงพี่พิเชษฐ์ให้ความอนุเคราะห์อย่างดี ครอบครัวของเราศรัทธาและไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวันอยู่เป็นเนืองนิตย์ ที่ขาดไม่ได้คือ วันที่ ๑๕ สิงหาคมของทุกปี ด้วยความศรัทธาและแน่วแน่ในทางปฏิบัติของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล คราวใดเมื่อเกิดเหตุเภทภัย ก็ได้รับการขจัดปัดเป่าจากร้ายกลายเป็นดี หรือลดความรุนแรงลงบ้าง คำแนะนำของหลวงพ่อคือ ให้สวดมนต์ชัยมงคลคาถา หรือ บทพาหุงมหากา แล้วสวดพระพุทธคุณเท่าอายุบวก ๑ เสร็จแล้วกรวดน้ำ แผ่เมตตา และสวดคาถาชนะมาร เดินจงกรม และ นั่งกรรมฐานอย่างละ ๑ ชั่วโมงปฏิบัติทุกวัน ปรากฏว่า ได้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้นกับดิฉัน ซึ่งจะขอนำมากล่าวในบางส่วน ดังนี้
๑. ดิฉันมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูกมาเป็นเวลานานแล้ว ประจำเดือนมาผิดปกติ ตรวจรักษาที่โรงพยาบาลยโสธร แพทย์บอกว่าเป็นมดลูกโตออก ต้องรักษาโดยการผ่าตัด ดิฉันไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี มีอยู่ครั้งหนึ่งที่หมอต้องขูดมดลูกสด ๆ โดยไม่ใช้ยาชาหรือยาสลบเลย ดิฉันระลึกถึงหลวงพ่อและกำหนดพองหนอ ยุบหนอ เกิดความรู้สึกชาไปทั้งตัว ปัจจุบันนี้ปกติดีทุกอย่าง
๒. แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ เมื่อคราวที่ไปรับลูกชาย ซึ่งบวชครบกำหนดสึกที่วัดอัมพวัน ดิฉันทำหน้าที่ขับรถ เวลาขณะนั้นประมาณ ๐๑.๐๐ น. สามีนอนพักที่ท้ายรถ ในความรู้สึกของดิฉันคล้ายกับเป็นเสียงเฮลิคอปเตอร์จะลงที่รถ ก็บอกกับเพื่อนที่ไปด้วยว่า ฮ. จะลง เพื่อนก็บอกว่าเป็นลักษณะของคลื่นถนน (เพื่อนที่ไปด้วยคือ อาจารย์สุวารี จิตตยโสธร) เสียงทุบรถด้านหลังบอกว่ายางระเบิด เมื่อดูสภาพล้อระเบิดทุกคนก็งง รอดราวปาฏิหาริย์
เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๓๖ ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นอีก ที่สี่แยกในเมืองยโสธร สามีพร้อมกับดิฉันได้ขับรถไป กำลังจะผ่านสี่แยกดังกล่าว ก็มีนางสาวยุภา ปิยะมาตย์ ขับรถมอเตอร์ไซด์ซ้อนมากับเพื่อนด้วยความเร็วสูง ประจวบเหมาะกับรถของดิฉันโผล่ออกไป แกตกใจกลัว หักหลบ รถล้มอย่างแรง พอดีกับรถสิบล้อสวนมา ตัวนางสาวยุภา ปิยะมาตย์ ตกอยู่ใต้ท้องรถสิบล้อ ส่วนเพื่อนของเธออยู่ตรงล้อพอดี ดิฉันเห็นภาพคนยืนดูอยู่เต็มถนน หลังจากนั้นก็งงไปเลยนั่งนิ่งอยู่ในรถ ทำอะไรไม่ถูกเพราะมั่นใจว่าสามีเป็นคนขับรถชนคนแล้ว ได้สติเมื่อได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งตะโกนว่าอย่าถอย ดิฉันก็ตะโกนว่า “อย่าถอย” ตอนนั้นรถสิบล้อกำลังจะถอยเพื่อให้เก็บศพเด็กสาว ๒ คนแน่นิ่ง ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์นึกว่าไม่รอดแน่ทั้งสองคนเลย ดิฉันเป็นคนแรกที่วิ่งไปช่วยเมื่อได้สติ และนำส่งโรงพยาบาลยโสธรรวมแพทย์ ได้รับความอนุเคราะห์เป็นอย่างดีจากนายแพทย์สุทธิชัย จันทร์อารักษ์ ผู้จัดการของโรงพยาบาล เด็ก ๒ คนนั้นไม่มีบาดแผลใด ๆ เพียงแต่หัวโน ดิฉันติดสติกเกอร์รูปหลวงพ่อที่หน้ารถ ต้องเป็นปาฏิหาริย์หลวงพ่อที่ผลักออกจากรถดิฉัน แล้วตามคุ้มครองเด็กสาว ๒ คนนั้นอย่างแน่นอน
๓. ดิฉันมีความทุกข์ใจมากและได้เขียนจดหมายถึงหลวงพ่อ เพื่อขอพึ่งเมตตาบารมีของพระเดชพระคุณท่าน และหลวงพ่อได้เมตตาตอบจดหมาย ดิฉันซึ้งในเมตตาบารมีที่หลวงพ่อให้แก่ครอบครัวเรา ต่อมาในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๓๕ ก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นที่ห้องพระของดิฉัน เวลา ๐๒.๐๐ น. ดิฉันลืมตาตื่นขึ้นมองเพดานบ้าน เห็นแสงสว่างที่เพดาน สามีหลับอยู่ ปรากฏว่าที่ห้องพระ เทียนจุดสว่างอยู่ ๒ เล่ม ต้องเป็นปาฏิหาริย์หลวงพ่ออย่างแน่นอน เพราะก่อนนอนและหลังสวดมนต์แล้ว พวกเราดับเรียบร้อยทุกครั้ง
๔. เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๓๕ ดิฉันได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนบ้านหนองหอย สปอ.เมือง สปจ.ยโสธร โรงเรียนตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำชี ในฤดูฝนน้ำหลากน้ำท่วม ต้องเดินทางโดยทางเรือ ลำบากและเสี่ยงต่ออันตรายจากเรือล่มอย่างยิ่ง ดิฉันสวดมนต์ภาวนาขอให้พ้นทุกข์และขอให้หลวงพ่อคุ้มครองด้วยเถิด ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีกแล้ว อย่างไม่มีคาดคิด อาจารย์สำอาง สามาอาพัฒน์ ครูใหญ่โรงเรียนบ้านหนองแฝก สปอ.เมืองยโสธร ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ติดชานเมืองสะดวกสบายทุกอย่าง และที่บ้านหนองแฝกคือที่ตั้งครอบครัวท่าน ท่านมาที่บ้านดิฉันและขอย้ายสับเปลี่ยนกัน ดิฉันไม่ขัดศรัทธา และได้บอกกับท่านว่าท่านมีบุญคุณมากที่เมตตาให้มาอยู่ในที่สะดวกสบาย และบอกกับท่านว่าไม่ได้ยึดถือยึดมั่น เมื่อมีความต้องการที่มาอยู่ที่โรงเรียนบ้านหนองแฝก ก็ขอให้บอกยินดีจะสับเปลี่ยนให้ เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๓๖ ดิฉันก็มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนบ้านหนองแฝก ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือด้วยดีจากคณะครูทุกคน รวมทั้งผู้ปกครอง ทั้งยังมีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคตู้เย็น พัดลม สร้างถนนหนทางให้อีกมากมาย ที่ขาดไม่ได้คือการบริจาคอาหารกลางวันสำหรับเด็กนักเรียนซึ่งเด็ก ๆ ก็น่ารัก รู้จักการแผ่เมตตาให้แก่ผู้บริจาคและผู้บริการทุกท่าน หลวงพ่อพร่ำสอนเสมอว่า “จิตเป็นกุศล จิตสบาย อุดมการณ์เกิดขึ้นเมื่อสติครบ รับรองนึกเงินได้เงิน นึกทองทองไหลมา” หลวงพ่อเมตตาบอกคาถาเงินงอกไว้ว่า “วิระทะโย วิระโคนายัง”
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล คือผู้ส่องทางสว่าง ธรรมะที่หลวงพ่อได้เมตตาสอนยังก้อง และซึ้งใจตลอดเวลา
“ไม่เคยทุกข์หรือจะรู้สุข” “ไม่เคยจนหรือจะรู้รวย”
“ไม่เคยชั่วหรือจะรู้ดี” “อย่าประมาท”
หลวงพ่อบอกว่า อย่าประมาท เพราะในสังคมปัจจุบันมันวิกฤตมาก ผู้มีสติปัญญาต้องรู้จักการวิเคราะห์ด้วยสติปัญญา ไม่ต้องพึ่งหมอดู ไม่ต้องไปสะเดาะเคราะห์ ต้องแก้กรรมด้วยตนเอง ผู้ปฏิบัติจะดูตัวเองออก บอกตัวเองได้ ใช้ตัวเองเป็น ช่วยตนเองให้ได้ ๘๐% อีก ๒๐% หลวงพ่อช่วยได้
ชีวิตในปัจจุบันของดิฉัน ได้รับการขัดเกลาบ้างแล้ว ไม่ถือเขาถือเรา จะให้ความเมตตาแก่เพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ เชื่อกฎแห่งกรรม กลัวบาปบุญคุณโทษ ไม่ยึดมั่นถือมั่น อะไรจะเกิดก็เกิด จะให้อภัย จะไม่ก่อกรรมสร้างเวรกับใคร ๆ อีกต่อไป จะใช้หนี้กรรมที่เคยสร้างเวรให้หมด ๆ ไป จะขอยึดพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล แห่งวัดอัมพวัน เป็นที่พึ่งตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่
ขออำนาจบารมีของพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่มีอยู่ จงช่วยอภิบาลปกปักคุ้มครอง พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล แห่งวัดอัมพวัน จงมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนนานตราบเท่านานแสนนานด้วยเทอญ