สอนพระนวกะในพรรษา ๒๕๓๒
โดย หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
๑๗ ต.ค. ๓๒
วันนี้เป็นวันพระ ๘ ค่ำ ไม่ใช่วันอุโบสถ ผมถือโอกาสขออนุญาตสงฆ์ จะเดินทางไปบรรยายที่จังหวัดพิษณุโลก เริ่มบรรยายเวลา ๘.๓๐ น. ให้เขาปฏิบัติกรรมฐานเดินจงกรม ๑ ชั่วโมง นั่ง ๑ ชั่วโมง แล้วจะรีบกลับ ภาคบ่ายให้เขาทำเอง จะรีบกลับมาโบสถ์นี้ จึงขอเรียนให้ทราบ ถ้าผมมาช้ามากไป ก็ให้ทำวัตรไปก่อน ถ้าหากมาทันก็มาทำวัตรร่วมกัน
เมื่อวานนี้ผมไปบรรยายได้จตุปัจจัยร่วม ๒ หมื่นบาท แต่ผมถวายเขาหมด ผมไม่เอาเลยนะครับ ผมออกไป ท่านอย่าคิดว่า ผมได้เงินเข้าวัดนะ ผมไปให้เขา เมื่อวานนี้เอาชาไป ๑๒ ห่อ ช่วยเขา
นี่แหละท่านทั้งหลาย จำผมไว้เป็นธารดำ กำหนดจดจำไว้ คนขี้เหนียว เหมือนน้ำไหลเข้าบ้านไม่มีทางออก น้ำจะเน่า มันจะไม่ไหลมาอีก มันเต็ม
สมมติว่าบ้านเราเป็นบ่อ มีน้ำ มันไหลมาแล้วไม่มีทางออก ไม่ช้าน้ำก็เน่า มันเน่าแล้ว ไม่มีทางจะไหลมาอีก แล้วจะไม่มีทางไหลออกไป คือคนขี้เหนียว รับรองไม่ช้าเน่า
บางองค์บางรูป ท่านเก็บของไว้มาก น้ำมันก๊าด นม จตุปัจจัยของท่านมากหลาย หนักเข้าก็เน่าแบบนั้นแหละ ผมมานึกในใจว่า คนที่เก็บอะไรต่ออะไรไว้ ขี้เหนียวไม่อยากทำบุญ ไม่มีน้ำระบาย วันใดวันหนึ่งต้องเหม็นจนได้ ขอเรียนถวายไว้
เมื่อวานเขาเห็นใจผม มาช่วยพูดตั้ง ๒ ชั่วโมงครึ่ง ยังแถมไม่รับปัจจัยอีก เลยญาติโยมเกิดศรัทธาทำบุญคนละ ๕๐๐ บาท คนละ ๑,๐๐๐ บาท มาสร้างศาลาได้ต่อบุญไปอีก ญาติโยมที่กรุงเทพฯ เกิดมีศรัทธา ส่งมาถวาย ๒ หมื่นบาท เพื่อสร้างศาลา อยู่เฉยๆ ก็ได้เงินนะ ขอให้มีจิตใจดี ขอให้มีศรัทธา เงินไหลนอง ทองไหลมา
ถ้าทุกรูปเอาใจใส่นั่งกรรมฐาน สำรวมสังวรระวังอินทรีย์ ท่านจะได้กำไร สึกหาลาเพศไป ท่านจะนึกเงินไหลนอง ทองไหลมานะครับ
ถ้าเป็นพระภิกษุ ปฏิบัติธรรมวินัย สำรวมปาริสุทธิศีล ๔ ประการ คือ
- ปาฏิโมกขสังวรศีล
- อินทรียสังวรศีล
- อาชีวปาริสุทธิศีล
- ปัจจัยสันนิสิตศีล
เท่านี้เหลือกิน
ถ้าไม่สำรวม ก็ไม่ว่าอะไร ท่านจะทำอย่างนั้นก็ตามใจ แต่ท่านจะเป็นคนสกปรกกาย สกปรกวาจา สกปรกทางใจ บ้านสกปรกอีกถ้าไปมีครอบครัวเข้า สัตว์นรกมาเกิด ว่านอนสอนยาก เถียงพ่อแม่คำไม่ตกฟาก
ถ้าเรามีความสะอาด สำรวมระวังอยู่ เมื่อเราเป็นฆราวาส นักปราชญ์มาเกิดมีปัญญาสูง มีลูกเป็นใหญ่เป็นโต
ท่านก็เลือกเอา เฮฮาตอนเป็นพระ ไม่สำรวมสังวรระวัง ไม่อยู่ในโอวาทอุปัชฌาย์ เป็นไปตามกรรมเองนะ
ผมเคยเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่บวชมา ผมไม่เคยเอาจีวรออก นอกเหนือจากสรงน้ำ ผมห่มของผมเรื่อย เหงื่อหยดออกลูกคางก็ต้องห่มจนเคยชิน และสำรวมอยู่เสมอ พิจารณาปัจจยะปัจเวกขณะอยู่เสมอ
และครองสบงทรงจีวรก็มีสติ พิจารณาปฏิสังขาโย อัชมยา ยถาปัจจยัง สำรวมอยู่ทุกวัน รับรองท่านมีใจเป็นกุศล จิตใจท่านก็เป็นบุญ ท่านเกิดความสุขในอนาคตแน่
ถ้าเราพิจารณาปัจจยะปัจจเวกขณะ ๔ ประการตลอดแล้ว รับรองท่านสวยงามน่ารัก จะทำอะไรน่านิยม สึกหาลาเพศไปแล้ว ท่านจะรวยมหาศาล ท่านจะทำอะไรไม่ติดขัด ทำอะไรราบรื่น จะไปทำนาก็ได้ข้าวมากมาย ไปทำสวนต้นไม้ก็งอกงาม ไปทำการค้าก็ได้กำไรงาม รับราชการจะมียศสูง มีตำแหน่งด้วย
ถ้าหากว่าขัดข้องทางเทคนิคแล้ว ท่านไม่ปฏิบัติตาม ถ้าเป็นราชการ ถึงประจำอยู่ ก็ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีหน้าที่ เหมือนได้เป็นนายทหารประจำกองกรม ไม่มีหน้าที่กับเขา ไม่มีอำนาจ บางทีหาโต๊ะนั่งไม่ได้ด้วยนะ ถ้าเป็นครูบาอาจารย์ก็แค่นั้นแหละ
ผมเคยเล่าให้พวกมาอบรมฟังเสมอ นายสมาน แสงมะลิ เป็นครูชั้นประถม ในที่สุดได้เป็นปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นคนมีบุญวาสนาเพราะอะไร?
ผมทำมานานแล้วตั้งแต่บวชใหม่ๆ ผมเชื่ออุปัชฌาย์คือหลวงพ่อดี วัดแจ้ง ถ้าอยู่เดียวนี้อายุตั้งร้อยกว่า ท่านมรณภาพแล้ว ที่ผมพาท่านไปนมัสการบังสุกุลนะครับ
เมื่อวันก่อนผมไปทักษิณาทานสดับปกรณ์ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม ชวนญาติโยมไป หมดไป ๒ หมื่นนะครับ ทำบุญเตรียมตัวมหาบังสุกุล ถวายของแล้วสร้างคู้ ที่นั่นเรียกว่าคู้ อนุสาวรีย์สมเด็จพระสังฆราช ที่สิ้นพระชนม์อายุพรรษาถึง ๙๐ สร้างพระรูปเอาไว้นะครับ ผมก็ไปช่วยสร้าง
ตอนเสด็จที่วัดเรา ผมก็ยากดีมีจนไม่เป็นไร บอกผู้ว่าราชการจังหวัด อุตส่าห์ช่วยสร้างโรงพยาบาลของท่านไป ๗ แสนเศษนะครับ เท่านี้เราพอใจของเรา ทำบุญทุกวันแล้วก็ได้ช่วยคู้ เครื่องบริการโรงพยาบาล ไปอีกหลายหมื่นบาท อุ่นเรือนก็ช่วยไปเยอะ
ท่านเคยเสด็จที่บ้าน อุ่นเรือน ท่านสงสารที่บ้านถูกไฟไหม้ ตอนที่ผมไปเมืองจีน ไปสวดมนต์ที่วัดไทงั้ง ฉลองวัดไทงั้ง ๑,๒๐๐ ปี อยู่ทางนี้ลูกศิษย์ไฟไหม้บ้านหมด ท่านก็โปรดเมตตาเปลี่ยนชื่อร้านให้ ชื่อ ระวี อาภา-พรรณ และพระองค์เสด็จเปิดด้วย
นี่แหละครับมันต่อเนื่องในความดีของคน ความดีของคนเหมือนเชื้อสาโท เป็นเหล้าได้ ความไม่ดีของคนเหมือนเชื้อน้ำตาลเมา ไม่มีทางเป็นเหล้าแน่ ทำอย่างไรเป็นเหล้าไม่ได้ น้ำตาลเมา ขอฝากไว้ด้วยนะ
ท่านจะทำดีแค่ไหน ท่านก็รู้แจ้งแก่ใจด้วยกันทุกรูป ว่าปฏิบัติหรือเปล่า ท่านจะสำรวมหรือเปล่า เป็นบาปหรือเปล่า ก็แล้วแต่นะ มันก็เป็นเงาตามตัวท่านไปเอง
ผมเคยสังเกตพระหลายรูปแล้วที่บวชเป็นพระนวกะบางองค์เขาเจริญเหลือเกิน มีความรุ่งเรือง ไปทำการค้าก็รวยเดี๋ยวนี้ คนหนึ่งที่บวชที่นี่ไปต่างประเทศ เขามีจดหมายมาให้ส่งหนังสือไปให้เขา กฎแห่งกรรมเล่ม ๓ เขามีหนังสือบอกหลวงพ่อ ทำงานด้วย รับจ้างฝรั่ง และค้าขายด้วย เลยพาญาติโยมไปอยู่กันเยอะเลย
อเมริกาก็ให้อยู่ตามสบาย เดี๋ยวนี้รวยมาก มีบ้าน ๓ หลัง เขาบวชเอาใจใส่ดี ต่อหน้าปฏิบัติอย่างไร ลับหลังอย่างนั้น รับรองดีแน่ สึกหาลาเพศไป ค้าขายก็รวย
สมมติว่าเราเป็นสมมติสงฆ์ ได้ปฏิบัติไตรสิกขาสามครบ ตามที่ผมเป็นอุปัชฌาย์สอนให้ในวันบวช รับรองท่านเหลือกินเหลือใช้ จะเหลียวซ้ายแลขวา คู้เหยียดเป็นกรรมฐานตั้งสติไว้ รับรองท่านสวยงามทั้งนอกทั้งใน และก็สึกหาลาเพศไป ก็จะนำความร่ำรวยติดตัวไปด้วย ไปอยู่ที่ไหน นึกจะทำอะไรก็สำเร็จ
ขอบคุณขอบใจ ท่านผู้ใส่ใจในไตรสิกขา ท่านที่สนใจบวชไม่เสียทีบวช มีมากมายหลายรูปที่ประชุมนี้ ไม่เสียทีแน่ บวชทั้งทีเอาดีได้ สึกหาลาเพ”ศ”ทั้งทีมีดีติดตัวไปได้ ไปครอบครองสมบัติ เป็นมหาเศรษฐีแน่
ท่านทั้งหลายต้องการรวยหรือไม่ ต้องการมีเงินไหม เรายังอยู่ทางโลก เรายังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ ก็ต้องการรวย ต้องการสวย ต้องการดี มีใครไหมที่ต้องการจะอับเฉาอับจน
ข้อสำคัญอยู่ที่การสร้างเหตุให้ถูกต้อง ถ้าเราสร้างเหตุไม่รวย สร้างให้เราจน จนจิต จนใจ จนสำรวม หน้าที่คอยระวัง มันก็จนไปหมด
ถ้าเหตุดีเสียอย่างด้วยกรรมฐาน จิตดีเสียอย่างคิดอะไรสำเร็จหมด ถ้าจิตไม่ดีนะครับ คิดอะไรไม่สำเร็จหรอก ทำอะไรก็ขัดข้อง มีแต่อุปสรรค เดือดร้อน สึกหาลาเพศไปท่านจะรู้เองนะ จะทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้านเขา โอ้เพื่อนเราเขาทำเอาๆ ได้เอาๆ เราทำไม่ได้เลย
บางทีนาติดกันแท้ๆ เขาทำได้ข้าว เราทำไม่ได้เพลี้ยลงหมด มันขัดข้องไปหมด ร้านค้าเขาข้างร้านเราขายดิบขายดี เหตุใดเราก็ขายเหมือนเขา ขายไม่ดีเลย มันขายไม่ได้เสียด้วย ร้านนั้นของก็สู้ร้านเราไม่ได้ เขาก็หยิบขายเอาๆ แต่เหตุใดหนอ ร้านเราขายไม่ได้ ก็เพราะเหตุอย่างนี้เอง
เพราะฉะนั้นคนเราจะดีเหมือนกันหมดก็ไม่ได้ แล้วแต่บุญแต่บาป บุญก็มีความสุข ทำอะไรสำเร็จ บาปละก็มีแต่ความทุกข์ มีแต่ความเดือดร้อนนานาประการ นี่อยู่ตรงนี้นะครับ
ผมเคยพูดให้เขาฟัง สวรรค์ก็เปิด บ้านเศรษฐีก็เปิด ไม่มีใครไปเกิดเลยหรือ แต่คุกปิด ทำไมไปติดตะรางกันเยอะ เขาปิดไว้แท้ๆ ไปเข้ากันได้ไง แต่ที่เปิดไม่ค่อยอยากไป
แต่ความดีจะสร้างก็ไม่ใช่ง่ายและไม่ใช่ยาก ไม่ยากเกินไป และไม่ง่ายเกินไป แต่ทำชั่วมันก็ต้องเหนื่อยเหมือนกัน ทำดีก็ต้องเหนื่อย ทั้งสองอย่าง เราก็เลือกเอาก็แล้วกัน ไหนๆ เหนื่อยทั้งทีแล้ว เสียเวลาแล้ว เอาข้างดี ดีกว่าข้างชั่ว ถึงเหนื่อยแสนเหนื่อยก็ให้มันได้ดี สำคัญเหนื่อยได้ชั่วนี่มันแย่ ลำบากเหลือเกินนะครับ
ผมนึกทบทวนเท่าที่ผมเป็นอุปัชฌาย์บวชให้มา ผมพยายามสอนเหมือนกันทุกรูปนะ ให้สำรวมอย่างไร ให้ปฏิบัติอย่างไร ถวายหมดแล้ว คิดกันได้หรือไม่
นี่ผมพูดนี่ก็สงสาร ไม่อยากให้ท่านบาป อยากให้เป็นผู้มีบุญวาสนา สึก”ห”าลาเพศไปไหน ท่านจะได้เป็นเศรษฐี มั่งมีศรีสุข มีหน้ามีตา
ผมทำได้ที่ผมสอนนี่ ผมทำได้นะ ผมทำงานไม่เสร็จ ผมไม่ฉันข้าวนะ นี่สองวันมาแล้ว ผมไม่ได้ฉันเลยถามเด็กๆ ดู ผมนั่งเขียนหนังสือตลอดเลย เสร็จแล้วมารับแขกอีก
นายทหารยศนายพล เอารถมาเจิม เราเคยส่งเสริมเขาเป็นนายพลมา เขาก็นึกถึงมาเยี่ยมเยียน และบอกว่าเงินไม่ได้เอามา แต่ช่วยสร้างศาลาหนึ่งหมื่นบาท จะส่งมาภายหลัง เห็นไหมนี่ มันก็ได้ทุกวันนะครับ
คนดีมีปัญญาจิตมันงอก คนไม่ดี ไม่มีปัญญาจิตมันขาดนะ ทำไม่ดีจิตขาด หมดอาลัยตายอยากเลยก็กลายเป็นเศษมนุษย์ บุรุษโคมลอย อันนี้ไม่ใช่ว่าผมจะพูดในวันนี้นะครับ พูดมานานแล้ว
พูดถึงเรื่องพระเครื่องรางของขลัง บางกรุเก่าจริงนะครับ ไม่มีคนนิยม ไปถามกรุใหม่ที่คนนิยมซิ เราก็เลือกเอาซิ เลือกกรุเองเอง พระที่ไม่เอาเหนือเอาใต้ ท่านไปตามอย่างได้หรือ ถ้าท่านทำอย่างนั้น ท่านจะไม่ได้ดี จะไม่มีปัญญา
คนที่ดีมีปัญญา เขาจะสำรวม สังวรระวัง เชาวนจิตมันเกิดนะครับ “หนามแหลมใครเสี้ยม มะนาวกลมใครกลึง” คนที่มีโหวงเฮ้ง มันไม่เสียหรอกครับ คนที่มีโสฬส มีเลข ๑๖ อยู่ในตัวบุคคลใด คนนั้นดีหมดทุกคน จะเป็นฆราวาสก็ดีหมด ถ้าพูดถึงหมอดูมีเลขโสฬส มีเส้นผ่านศูนย์นั้น รับรองดีทุกคน ถ้าเส้นนั้นมันไม่เอาไหนก็เอาดีไม่ได้ เส้นมันคด
ผมเคยพูดเคยสอนอยู่เสมอว่า เส้นชีวิตมันคดทุกคน แต่ต้องทำให้มันตรง จิตมันขึ้นๆ ลงๆ ด้วยพรหมลิขิตมันขีดขั้น เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง เดี๋ยวดี เดี๋ยวชั่ว นั่นแหละคือพรหมลิขิต จิตของเรามันคด กำหนดได้ ใช้สติปัฎฐานสี่ซิครับ เจริญสติอยู่ กำหนดซิครับ
ถ้ากำหนดได้เส้นตรงนะครับ จะไม่ขึ้นๆ ลงๆ นั่น หรือพรหมลิขิต จงทำดีให้แก่ดวง อย่าไปนั่งคอยดวงให้มันดี
คนเราต้องมีดีหลายด้าน มีสิ่งแวดล้อมหลายอย่าง มีความรู้รอบตัวหลายอย่าง ไม่ใช่รู้อย่างเดียวที่เขารู้กันนะ ต้องรู้ให้รอบตัว เขาเล่นหวยกัน เราก็รู้นะ ความรู้รอบตัวนะสำคัญความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด รู้อะไรล่ะจะเท่ารู้วิชา
ดังคำกลอนสุนทรภู่ “อันข้าไทได้พึ่งเขาจึงรัก แม้ถอยศักดิ์สิ้นอำนาจวาสนา เขาหน่ายหนีมิได้อยู่คู่ชีวา แต่วิชาช่วยกายจนวายปราณ”
มีวิชาติดมากับตัวดีนะครับ ปัญญาติดมากับตัว ความรู้อยู่ในตำรา ใครอยากได้วิชาศึกษาเองเอง ได้ผล
สำคัญวิชาอะไรกันหนอ แต่สู้รู้วิชาเอาตัวรอดเป็นยอดดี รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง ขอฝากไว้ด้วยนะ จะได้รอดพ้นอันตรายนะ อย่าไปโง่ อย่าไปโผล่ให้เขาเห็น
หยิ่งโยโสแมงป่องก็ไม่ดี ผู้ใหญ่ให้ของไม่เอาจองหองจริงๆ ไม่เอาเหนือเอาใต้เลยพวกจองหอง นี่ผมโดนด่ามาอย่างนี้ ผมมาเล่าถวาย
หลวงพ่อเดิมเคยด่าผม ให้คาถาเลี้ยงช้างไม่เอา คาถาต่อช้างป่า คาถาช้างตกน้ำมัน ไม่เอาครับ ตอนนั้นผมเตรียมจะสึกแล้ว ผมเอาคาถาผู้หญิงบทเดียว หลวงพ่อเดิมพูดทันที “เจ้านี่หยิ่งโยโส แมงป่องจองหองนี่ ผู้ใหญ่ให้รู้นี่ว่าเหตุการณ์จะต้องเอาไปใช้ ยังจองหองอีกหรือ” นี่ผมเคยโดนด่ามาก็เล่าถวาย
ปู่ผมสอนว่า “สมองหมา ปัญญาควาย” ผมโดนด่ามาอย่างนี้ นี่เล่าถวายท่าน สิ่งละอันพันละน้อย ท่านจะจำไปได้ข้อเดียว ผมก็พอใจ ยังได้แบบอย่างของวัดไปใช้บ้าง ท่านคงได้แน่นะครับ
เอาละท่านจะรักผมต่อภายหลัง เมื่อท่านมีทุกข์น้ำตาไหล จึงจะคิดถึงหลวงพ่ออัมพวัน ท่านไปสบายอาจจะลืมเลย ไม่กลับมาก็ได้ ผมไม่ว่าหรอก แต่ไปมีทุกข์แล้วก็กลับมาเถอะครับ ถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ กลับมา ผมจะช่วย
“เดี๋ยว” ไม่มีนะ ไปสอนลูกหลานท่านในอนาคต อย่าเดี๋ยว รับรองท่านเป็นเศรษฐี จะค้าขายก็มั่งมีศรีสุขนะครับ นี่แหละท่านผู้มีปัญญาทุกท่าน โปรดโยนิโสมนสิการ พิจารณาด้วยปัญญาของท่านเอง
ผมมีความปรารถนาดี อยากให้ดีทุกองค์ สึกหาลาเพ”ศ”ไป อยากให้ลูกศิษย์มีบ้านใหญ่ บ้านโตอย่างกับรั้วอย่างกับวังอย่างกับวัดทั่วกันทุกท่านเทอญ